เนื่องจากไม่มีโปรแกรมการแข่งขันในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาล 2022/23 เนื่องจากติดโปรแกรมเกมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาต้าร์ แต่ทางทีมงาน Newcastlesoccer จะขอสถาปนาตนเอง ที่จะนำข้อมูลเกี่ยวกับสโมสรแห่งนี้ มาแนะนำให้พี่ๆ น้องๆ แฟนฟุตบอล ได้รู้จักสโมสรแห่งนี้กันมากขึ้น รวมถึงจะตั้งใจนำคอนเทนต์และบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับสโมสรแห่งนี้ มาเผยแพร่ที่เว็บไซต์นี้แบบจัดเต็ม ส่วนวันนี้มาพูดถึงประวัติความเป็นของสโมสรแห่งนี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งวันนี้จะมาย้อนรอยผลงานศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาล 2011/12 ของสโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่เป็นซีซั่นที่พวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนจบอันดับที่ 5 ของตาราง มาดูกันว่าฤดูกาลนั้น มีอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นกันบ้าง
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ย้อนรอยผลงานในฤดูกาล 2011/12
ซีซั่นนั้น “สาลิกาดง” มีกุนซือ อลัน พาร์ดิว กุนซือชาวอังกฤษ ที่ตอนนั้นอายุ 49 ปี โดยตอนนั้นกุนซือปากแซ่บรายนี้ จัดทัพในระบบ 4-4-2 เป็นส่วนใหญ่ มาดูกันว่านักเตะในทีมชุดใหญ่ทั้งหมด 37 ราย จะเป็นใครกันบ้าง
เริ่มจากตำแหน่งผู้รักษาประตู, กองหลัง, กองกลาง และ กองหน้า
- ทิม ครูล
- เฟรเซอร์ ฟอสเตอร์
- สตีฟ ฮาร์เปอร์
- ร็อบ เอลเลียต
- โอเล่ โซเดอร์เบิร์ก
- ฟาบริซิโอ โคล็อคชินี่
- สตีเว่น เทย์เลอร์
- ไมค์ วิลเลียมสัน
- ทามาส คาดาร์
- เจฟฟ์ เฮนเดอร์สัน
- พอล ดุมเม็ตต์
- ดาวิเด้ ซานตอน
- แดนนี่ ซิมป์สัน
- ไรอั้น เทย์เลอร์
- เจมส์ ทาเวอร์เนียร์
- ชิค ติโอเต้
- เจมส์ เพิร์ช
- โยฮัน กาบาย
- โจนาส กูเตียร์เรซ
- โจอี้ บาร์ตั้น
- แดนนี่ กูธรี่
- แดน กอสลิ่ง
- อลัน สมิธ
- เมห์ดี้ อาเบด
- เชน เฟอร์กูสัน
- ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา
- ซิลแว็ง มาร์โวซ์
- กาเบรียล โอแบร์ต็อง
- แซมมี่ อเมโอบี้
- ไรอั้น โดนัลด์สัน
- ปิสเซ่ ซิสเซ่
- เด็มบ้า บา
- เลออน เบสต์
- โชล่า อเมโอบี้
- ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส
- นีล เรนเจอร์
- ฮาริช วุคคิช
ผลงานและไฮไลท์สำคัญในฤดูกาล 2011/12
ดูจากคุณภาพนักเตะจากทีมด้านบนก็ถือว่าเป็นทีมระดับเกรดบีเต็มตัว อย่างไรก็ตามเริ่มผลงานในฤดูกาลนั้น พวกเขาไม่แพ้ใครถึง 11 นัด ในลีกเลยทีเดียว เรียกว่าฟอร์มร้อนแรงอย่างมาก โดยอยู่อันดับีท่ 3 ของตาราง
โดยมาดูกันว่า 11 ตัวจริงหลักๆ ของพวกเขาในระบบ 4-4-2 เป็นอย่างไร ใครเป็นตัวยืน
ผู้รักษาประตู ทิม ครูล
แดนนี่ ซิมป์สัน แบ็คขวา, สตีเว่น เทย์เลอร์ กองหลังตัวกลาง, ฟาบริซิโอ โคล็อคชินี่ กองหลังตัวกลาง, ไรอั้น เทย์เลอร์ แบ็คซ้าย
แซมบี้ อเมโอบี้ กองกลางฝั่งขวา, โยฮัน กาบาย กองกลาง, ชีค ติโอเต้ กองกลาง, โจนาส กูเตียร์เรซ กองกลางฝั่งซ้าย
อาเต็ม เบน อาร์กฟา กองหน้า และ เด็มบ้า บา กองหน้า
นี่คือแข้งชุดเต็มทั้งหมดที่พวกเขามีและใช้เป็นแกนหลักส่วนใหญ่ ส่วนรายอื่นๆ ก็ได้ลงสนามเช่นเดียวกัน โดยไฮไลท์ 11 นัดแรก พวกเขาเสมอกับ อาร์เซน่อล และ เสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
แต่ทว่าเข้านัดที่ 12 จนถึงนัดที่ 17 พวกเขาไม่ชนะใครรวมกัน 6 นัดติดต่อกัน จนฟอร์มรูดหล่นมาอยู่อันดับที่ 7 ของตาราง ซึ่งพวกเขาแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ตามด้วยการเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หลังจากนั้นผลงานของพวกเขาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มาแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล 1-3 แต่เหลือเชื่อว่านัดต่อมาเกมในสนาม เซนต์ เจมส์ ปาร์ค เปิดบ้านถล่มใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 3-0
เหมือนจะกลับมาได้แล้ว แต่แมตช์ที่ 22 พวกเขาแพ้ให้กับฟูแล่มถึง 2-5 แต่สองนัดถัดจากนั้นพวกเขาชนะรวดสองนัดแต่ก็มาโดน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถล่มยับ 0-5 และหาชัยชนะไม่เจอถึง 3 นัด โดยแพ้ให้กับ อาร์เซน่อล ในนัดที่ 28 ของฤดูกาล ทำให้พวกเขาอยู่อันดับที่ 6 ของตาราง
แต่หลังจากนี้พวกเขาเหมือนร่วมแรงร่วมใจได้อย่างยอดเยี่ยม มาดูกันว่า ตั้งแต่เกมที่ 29 ถึง 35 ผลงานการแข่งขันเป็นอย่างไรกันบ้าง
เริ่มจากเกมที่ 29 ชนะ นอริช ซิตี้ 1-0
นัดที่ 30 เอาชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ด้วยสกอร์ 3-1
เกมที่ 31 เอาชนะ ลิเวอร์พูล นิ่มๆ ด้วยสกอร์ 2-0
เกมที่ 32 เอาชนะ สวอนซี ซิตี้ ด้วยสกอร์ 2-0
นัดที่ 33 เปิดบ้านชนะ โบลตันฯ ด้วยสกอร์ 2-0
ตามด้วยไฮไลท์นัดที่ 34 บุกไปชนะ เชลซี 2-0
ตามด้วยชนะ สโต๊ค ซิตี้ ด้วยสกอร์ 3-0
ซึ่งทำให้พวกเขามีลุ้นในการจบท็อปโฟร์ ได้สิทธิ์ไปลุยในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาล 2012/13 แต่ทว่าด้วยความกดดันกันอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน ทำให้สามนัดหลังสุด พวกเขาแพ้รวด มีคะแนนอยู่ที่ 65 คะแนน จาก 38 นัด จบอันดับที่ 5 ของตาราง ได้เล่นในศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เท่านั้น
สถิติที่น่าสนใจ เด็มบา บ้า เป็นดาวซัลโวของทีมยิงไปถึง 16 ประตู ส่วน ปาปิส ซิสเซ่ ยิง 13 ลูก ส่วน โยฮัน กาบาย ทำแอสซิสต์ได้ 8 ครั้ง ตามมาด้วย อาเต็ม เบน ฮาร์กฟา ทำได้ 6 ครั้ง
แต่เหลือเชื่อว่าฤดูกาลถัดมา พวกเขาจบอันดับที่ 16 ของตารางและทีมก็ตกต่ำกันยาวๆ จนมาตอนนี้ ปัจจุบัน สโมสรอยู่อันดับที่ 4 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ บอกเลยได้ว่ามีลุ้นกันยาวๆ