มาแล้วครับสำหรับศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยทาง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็มีโปรแกรมการแข่งขันอีกด้วย ซึ่งมาดูกันว่า พลพรรค “สาลิกาดง” ยุคใหม่ ภายใต้การทำทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว และกลุ่มทุนเงินหนาเจ้าของทีมจากซาอุดิอาระเบีย วันนี้ทีมงาน Newcastlesoccer จะขอสถาปนาตนเอง ที่จะนำข้อมูลเกี่ยวกับสโมสรแห่งนี้ มาแนะนำให้พี่ๆ น้องๆ แฟนฟุตบอล ได้รู้จักสโมสรแห่งนี้กันมากขึ้น รวมถึงจะตั้งใจนำคอนเทนต์และบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับสโมสรแห่งนี้ มาเผยแพร่ที่เว็บไซต์นี้แบบจัดเต็ม ส่วนวันนี้มาพูดถึงประวัติความเป็นของสโมสรแห่งนี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งวันนี้มาดูกันว่าทุกโปรแกรมการแข่งขันในเดือนพฤศจิกายน ของฤดูกาล 2022/23 จะเป็นคู่ไหน รวมถึงผลการแข่งขันทุกคู่เป็นอย่างไร มีสถิติอะไรที่น่าสนใจ และ สถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไร? มาฝากแฟนบอลสีดำขาวกันแบบจุใจจัดเต็มกันครับ
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โปรแกรมพรีเมียร์ลีก 22/23 เดือน พฤศจิกายน
เดือนนี้คุณจะได้ชม “สาลิกาดง” แบบน้อยนิดรวมทุกรายการแค่ 3 นัดเท่านั้น แบ่งเป็นโปรแกรมพรีเมียร์ลีกแค่ 2 นัด และ ลีก คัพ รอบ 3 เพียงแค่ 1 นัดเท่านั้น
เนื่องจากต้องลีกให้โปรแกรมการแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์โลก หรือ ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2022 ที่ประเทศการ์ต้ารับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ มาจัดส้นตีอะไรเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากเหตุผลที่แท้จริงว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ ฟีฟ่า น่าจะหิวเงินจากท่านชีคนั่นเอง ก็ทำให้นักบอลเดือดร้อนกันไป
บอกตั้งใจจะเซฟและดูแลนักเตะให้ดี แต่กลายเป็นว่ามาเพิ่มภาระแบบไม่จำเป็น เป็นอะไรที่ทุเรศเหลือเกิน แต่ก็ทำอย่างไรได้ เราเป็นแค่คนดู ถือว่าจะได้ดูบอลโลกในช่วงปลายปี ก็เป็นอะไรที่แปลกตากันไปครับ ส่วนโปรแกรมเดือนนี้ “สาลิกาดง” จะเจอกับใครบ้าง และความน่าจะเป็น เป็นอย่างไร ผลการแข่งขันเป็นอย่างไรทุกคู่ มีอะไรน่าสนใจ มาดูกันเลย
สาลิกาดง บุกไปอัด เซาแธมป์ตัน คาบ้าน 4-1 ทำโค้ชทีมเขาโดนปลดไปด้วย
“สาลิกาดง” ท้าทายท็อปโฟร์แบบเต็มตัว ด้วยการบุกไปถล่มใส่ “นักบุญ“ เซาแธมป์ตัน ด้วยสกอร์ท่วมท้น 4-1 เก็บสามแต้มแบบจุกๆ ที่สนาม เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน ค.ส. 2022 ต่อหน้าแฟนบอล สามหมื่นสี่ร้อยสองคน ทำเอา ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิ่่ล กุนซือเจ้าบ้าน โดนปลดอย่างเป็นทางการ
โดยเกมนี้ทีมเยือน เดอะ แม็คพายส์ มาในระบบ 4-3-3 เช่นเคย ซึ่ง 11 ผู้เล่นตัวจริง ประกอบไปด้วย
นิค โป๊ป ผู้รักษาประตู
คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คขวากัปตันทีม, ฟาเบียน ชาร์ และ แดน เบิร์น เป็นกองหลังตัวกลาง, แดน เบิร์น แบ็คซ้าย
ฌอน ลองสตาฟฟ์ กองฝั่งซ้าย และ บรูโน่ กิมาไรส์ กองกลาง และ โจ วิลล็อค กองกลางฝั่งซ้าย
มิเกล อัลมิรอน ปีกขวา, คัลลั่ม วิลสัน กองหน้าตรงกลาง และ จาค็อบ เมอร์ฟี่ย์ ปีกซ้าย
โดยเกมนี้วัดกันตรงที่ความเฉียบคมและความมั่นใจโดยแท้จริง เพราะว่าการครองบอลและการทำประตูของเจ้าบ้านมีมากกว่าทีมเยือน แต่จังหวะการทำประตูและการจบสกอร์ ของทีมเยือน ทำได้ดีกว่าเยอะมากๆ
ซึ่งนาทีที่ 35 ทีมเยือนได้ประตูออกนำจาก มิเกล อัลมิร่อน ที่ฤดูกาลนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง ทำประตูได้ในนาทีที่ 35 ซึ่งครึ่งแรกทีมเยือนออกนำไปก่อน 1-0
ครึ่งหลังแม้ว่าเจ้าบ้านจะได้บุกเยอะเหมือนเดิมและน่าจะทำประตูได้ แต่ทีมเยือนก็ยันไว้อยู่ และมาได้ประตูรัวๆ ในครึ่งหลัง ในนาทีที่ 58 จาก คริส วู้ด กองหน้าตัวสำรองที่ได้ลงสนามและทำประตูได้
ตามมาด้วยการทำประตูของ โจ วิลล็อค ในนาทีที่ 62 ซึ่งหลังจากนั้นเกมก็ทำท่าเหมือนจะจบแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่นาทีที่ 89 โรแม็ง แปร์โรด์ ทำประตูตีไข่แตกให้ทีมเจ้าบ้านไล่มาเป็นสกอร์ 1-3 ในนาทีที่ 89
แต่ทว่านาทีที่ 90+1 ก่อนเกมจะหมดเวลา บรูโน่ กิมาไรส์ จะมาซัดประตูฝัง ตอกย้ำชัยชนะให้ “สาลิกาดง” เอาชนะ เซาแธมป์ตัน ด้วยสกอร์ 4-1 เก็บสามแต้มแบบแน่นๆ พร้อมกับก้าวท้าชิงพื้นที่ 4 อันดับแรกในตารางได้อย่างน่าเกรงขาม
สถิติการแข่งขันตลอด 90 นาที
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ติดท็อปโฟร์แบบน่าเกรงขาม เฉือนชนะ เชลซี 1-0
เรียกว่าชื่นมื่นและโอกาสในการไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อาจจะไม่ต้องรอยาวนานเกินไป เมื่อ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เปิดสนาม เซนต์ เจมส์ ปาร์ค เอาชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม“ เชลซี ด้วยสกอร์ 1-0 ในวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ส. 2022
โดยเกมนี้เจ้าบ้าน เดอะ แม็คพายส์ ภายใต้การนำทัพของ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือที่แฟนๆ รักอย่างมากในตอนนี้ มาในระบบ 4-3-3 เช่นเคย ซึ่ง 11 ผู้เล่นตัวจริง ประกอบไปด้วย
นิค โป๊ป ผู้รักษาประตู
คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คขวากัปตันทีม, ฟาเบียน ชาร์ และ สเวน บ็อตมัน เป็นกองหลังตัวกลาง, แดน เบิร์น แบ็คซ้าย
ฌอน ลองสตาฟฟ์ กองฝั่งซ้าย และ บรูโน่ กิมาไรส์ กองกลาง และ โจ วิลล็อค กองกลางฝั่งซ้าย
มิเกล อัลมิรอน ปีกขวา, คริส วู้ด กองหน้าตรงกลาง และ โจลินตอน ปีกซ้าย
ดูจากรายชื่อวันนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงบางตำแหน่ง แต่ยังดีที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาให้เปลี่ยนเกมกันได้ตามสบาย ส่วนรูปเกมนัดนี้ เริ่มมาครึ่งแรก เจ้าบ้านได้โอกาสบุกเยอะกว่า แต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้ ครึ่งแรกจบลงด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งหลังเจ้าบ้านทำได้ดีกว่าได้โอกาสยิงมากขึ้น และ มาได้ประตูชัยจากลูกยิงไกลสุดสวยของ โจ วิลล็อค ในนาทีที่ 67 และนี่ก็เป็นประตูชัยพาทีมเก็บสามคะแนนเหนือทีมยักษ์ใหญ่ได้สำเร็จ เรียกว่าฟินกันก่อนพักเบรคบอลโลก มาว่ากันใหม่ในช่วงท้ายเดือนธันวาคมใกล้ปีใหม่
ส่วน แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ทางเว็บไซต์ พรีเมียร์ลีก ยกให้ คีแรน ทริปเปียร์ รับรางวัลอีกแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมไม่แจกให้คนอื่นบ้างเหมือนกัน เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบได้
สถิติการแข่งขันตลอด 90 นาที
อันดับตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ล่าสุด
พวกเราอยู่อันดับที่ 3 ของตาราง ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สองคะแนน และ อาร์เซนอล แค่ 5 คะแนนเท่านั้น เรียกว่ามีลุ้นแชมป์และลุ้นติดท็อปโฟร์เต็มตัว ตอนนี้เกมในบ้านแข็งแกร่งมากๆ และก็ชนะกันรัวๆ มาหลายนัดแล้ว
น่าเสียดายที่บอลโลกมาคั่นกลาง จึงทำให้ต้องอดใจรอ ก็มารอดูกันว่าโปรแกรมเปิดการแข่งขันแล้วจะเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่ตอนนี้ได้ฟินกันยาวๆ
ฟุตบอลถ้วยลีกคัพ “สาลิกาดง” ชนะจุดโทษ คริสตัล พาเลซ 3-2
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เปิดสนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค เอาชนะ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ 3-2 ในการดวลลูกจุดโทษ ในศึก ลีกคัพ รอบที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ส. 2022
โดยเกมนี้เจ้าบ้าน เดอะ แม็คพายส์ ภายใต้การนำทัพของ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือที่แฟนๆ รักอย่างมากในตอนนี้ มาในระบบ 4-3-3 เช่นเคย ซึ่ง 11 ผู้เล่นตัวจริง ประกอบไปด้วย
นิค โป๊ป ผู้รักษาประตู
ฆาเวียร์ มานควีโญ่ แบ็คขวา, จามาล ลาสเซลเลส และ แดน เบิร์น เป็นกองหลังตัวกลาง, แม็ตต์ ทาร์เก็ต แบ็คซ้าย
ฌอน ลองสตาฟฟ์ กองฝั่งซ้าย และ จอนโจ้ เชลวี่ย์ กองกลาง และ โจลินตอน กองกลางฝั่งซ้าย
เอลเลียต แอนเดอร์สัน ปีกขวา, คริส วู้ด กองหน้าตรงกลาง และ อัลลัน แซงต์-แม็กซิแมง ปีกซ้าย
สถิติการแข่งขันในเกมนี้