นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อาจลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก?

หลังจากที่ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน และ กลุ่มทุนจากจากซาอุดิอาระเบียอย่าง Public Investment Fund (PIF) ที่ผนึกกำลังกับ PCP Capital Partners และ RB Sports & Media แล้ว ด้วยวงเงิน 305 ล้านปอนด์ ในการเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในประมาณวันที่ 8 ตุลาคม ค.ส. 2021 จนทุกวันนี้สโมสรแห่งนี้กลายเป็นสโมสรที่มีเจ้าของทีมรวยที่สุดในโลก แต่ก็ด้วยกฏไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพย์ เข้ามาควบคุมเรื่องการใช้จ่ายไม่พึงประสงค์ของหลากหลายสโมสร ก็ทำให้ทีมนี้ไม่สามารถใช้เงินแบบมือเติบได้ นั่นทำให้ไม่สามารถใช้จ่ายแบบมือเติบได้ดั่งใจ นักเตะที่มีอยู่ก็ถือว่ายังไม่ได้เป็นขุมกำลังที่น่ากลัวจะได้ลุ้นแชมป์เต็มตัว แต่ผลงานในตอนนี้และเป้าหมายของเจ้าของสโมสร ที่ต้องการยกระดับทีมให้ติด 1 ใน 4 เพื่อไปให้ได้ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เพื่อยกระดับทีมและดึงดูดสตาร์ดังๆ มาประดับทีม ก่อนที่จะยกระดับเป็นทีมหัวแถวของลีกและของโลกให้ ดังนั้นวันนี้ทีมงาน NewcastleTH จะมาพูดคุยจำแนกย่อยเรื่องที่ว่าสโมสรแห่งนี้ กับเป้าหมายที่ยิ่งกว่า นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่อาจจะไปลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก นั่นเอง

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กับเป้าหมายการได้แชมป์พรีเมียร์ลีก

แน่นอนว่าต้องดูกันที่ขุมกำลังกันก่อน ว่าพวกเขามีใครกันบ้าง รวมถึง กุนซืออย่าง เอ็ดดี้ ฮาว ตั้งแต่ก้าวเข้ามาคุมทีมในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ส. 2021 จนตอนนี้เป็นว่าร่วมเกือบปีแล้ว

ผลงานของ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือสัญชาติอังกฤา คุมไปแล้ว 39 เกม ชนะ 18 นัด เสมอ 10 และแพ้ 11 นัด อัตราเฉลี่ยยิง 1.26 และเสีย 1.18 คะแนน PPM อยู่ที่ 1.64 ถือว่าโอเคเลยทีเดียว

มาต่อกันที่ขุมกำลังของทีม ที่กุนซือชาวอังกฤษ เลือกใช้งานเป็นประจำในตอนนี้

นิค โป๊ป ผู้รักษาประตู

คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คขวา, ฟาเบียน แชร์ และ สเวน บ็อทมัน กองหลังตัวกลาง, แดน เบิร์น แบ็คซ้ายจำเป็น

ฌอน ลองสตาฟฟ์, บรูโน่ กิมาไรส์ และ โจ วิลล็อค กองกลาง

ปีกซ้าย มิเกล อัลมิรอน, คัลลั่ม วิลสัน กองหน้าตัวเป้า และ จาค็อบ เมอร์ฟี่ย์ ปีกขวา จำเป็น

ส่วนตัวสำรองที่ดูโอเค แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ แบ็คซ้ายตัวจริงที่หายเจ็บ, โจลินตอน กองหน้าที่เปลี่ยนมาเล่นกองกลาง, อัลลัน แซงต์ แม็กซิแมง ปีกขวัญใจของทีมแต่ก็เจ็บบ่อยเหลือเกิน และ คริส วู้ด กองหน้าตัวเป้ารอเปลี่ยนเกม ส่วน อเล็กซานเดอร์ อีซาค เจ็บ ซึ่งหายมาก็มีโอกาสเป็นตัวจริง

ส่วนแข้งสำรองรอแก้เกมอย่าง ไรอั้น เฟรเซอร์, จอนโจ้ เชลวี่ย์ ส่วน เอมิล คราฟท์ ถ้าหายเจ็บมาก็มีโอกาสลงเป็นตัวจริง ตำแหน่งแนวรับถือว่ามีตัวเลือกเยอะ

ซึ่งตัดเกรดแล้วนักเตะมีแต่เกรด ซี ถึง บี เท่านั้น เต็มที่ก็บีบวก ถ้านับเอจริงๆ ก็คงเป็น คีแรน ทริปเปียร์ ที่เป็นไปได้ ส่วน บรูโน่ กิมาไรส์ และ อเล็กซานเดอร์ อิซาค ก็มีแววที่จะไปตรงจุดนั้น ส่วน อัลลัน แซงต์ แม็กซิแมง ก็ดันเจ็บบ่อยเกินไป

แต่ในจุดนี้ก็มีข้อดี เมื่อไม่มีสตาร์มาอยู่กับทีมหลากราย ลองดูแข้งตัวหลักของที่มีโอกาสได้ไปทีมชาติ ก็ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูก็เป็น นิค โป๊ป, สเวน บ็อตมัน อาจไม่ได้ไป เพราะยังไม่ติดทีมชาติชุดใหญ่ ส่วน เอมิล คราฟท์ พักยาวๆ บาดเจ็บ บอลโลกก็อดไปอยู่แล้ว

บรูโน่ กิมาไรส์ ได้ไปแน่นอน ส่วนที่เหลือดูรายชื่อแล้ว ไม่มีใครน่าจะได้ไปแล้ว นั่นทำให้อาจมีแค่สองสามรายเท่านั้น ที่อาจจะได้ไปลุยบอลโลก อ่อ เกือบลืม คีแรน ทริปเปียร์ แต่ตำแหน่งที่เขาเล่นก็มีแข้งร่วมชาติอังกฤษ พร้อมแย่งโอกาส

นั่นทำให้ขุมกำลังที่พวกเขาเหลืออยู่ เรียกว่ามีความฟิต ได้พักกันเต็มๆ เต็มที่แข้งบางรายก็ได้ไปเล่นในรายการอุ่นเครื่องกับทีมชาติฟีฟ่าเดย์ เท่านั้น นั่นทำให้พวกเขาพร้อมจะล่าแต้มได้

เพราะทีมใหญ่ ทีมเต็ง ก็มีแข้งที่ติดทีมชาติกันแทบยกทีม มีเวลาพักไม่นาน ยิ่งทีมไหนเข้ารอบลึกเท่าไหร่ ก็เหนื่อยหอบกันมากเท่านั้น บางรายอาจบาดเจ็บ ส่งผลโดยตรงต่อชาติและสโมสร

ตรงนี้จึงเป็นจุดที่ที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จะสามารถกอบโกยแต้มขึ้นมาอันดับบนๆ ได้ ซึ่งอันดับในตารางตอนนี้พวกเขาก็อยู่เลขตัวเดียว เกาะกลุ่มวนเวียนอยู่ในพื้นที่ ศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก และ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก

ถือว่าพวกเขากำลังทำผลงานได้ดีเลยทีเดียว โดยเกมในบ้านของพวกเขา ก็ยังไม่พลาดท่าแพ้ให้กับทีมใดเลย แถมกุนซือทำบอลสู้กับทีมใหญ่ได้ดีเอามากๆ ยกตัวอย่างที่พวกเขา เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสกอร์ 3-3

แถมตอนนี้ แพ้ไปเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามหลังบอลโลกจบก็จะมีการพักถึงประมาณปลายเดือนธันวาคม ช่วงเวลานี้พวกเขาควรโกยแต้มให้ได้มากที่สุด

ไม่ติด 1 ใน 4 แต่แค่ติด อันดับที่ 5 ก็ถือว่าสโมสรวางแผนงานและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถเสริมแข้งเกรดบีบวก หรือ เกรดเอ มาร่วมทีมได้

ส่วนการลุ้นแชมป์ของพวกเขา จากการที่แค่นักเตะ 4 รายที่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลก เพราะนักเตะเหลือในทีมถึง 23 คนที่เป็นแข้งชุดใหญ่ สร้างความได้เปรียบต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก

ทำไมถึงมีลุ้นแชมป์

แล้วทีนี้มาดูแข้งที่ติดทีมชาติ ไปลุยศึกฟุตบอลที่ประเทศ กาต้าร์ ว่ามีใครกันบ้าง เริ่มจาก

บรูโน่ กิมาเรส กองกลางตัวกลั่น อายุ 25 ปี เพิ่งย้ายมาจาก โอลิมปิก ลียง มาอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นเขาเป็นตัวหลักของทีมแบบยาวๆ ในชนิดที่ว่าขาดเธอไม่ได้

แน่นอนว่าเขาติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ลุยบอลโลกเรียบร้อยแล้ว และ คาดว่าจะได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องในทัวร์นาเม้นต์นี้แน่นอนครับ

คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คขวาอายุ 32 ปี เผลอครู่เดียวก็เข้าสู่อาชีพการค้าแข้ง แต่ก็ทำผลงานกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นแบ็คขวาที่ทีมขาดไม่ได้เลยทีเดียว

โดยเขาเป็นตัวจริงของทีมชาติอังกฤษ ลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาต้าร์ และ จะยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมชาติได้เต็มๆ ในทัวร์นาเม้นต์นี้

นิค โป๊ป ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของสโมสร แต่ในนามสโมสรเขาได้รับการคาดหมายว่าเป็นมือสองของชาติ ซึ่งอาจจะมีโอกาสในการลงสนามอยู่บ้างนิดหน่อย

แต่ในนามสโมสรเขาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน ทำให้ทีมอุ่นใจเสมอเมื่อมีเขาเป็นผู้รักษาประตูเฝ้าเสาให้ทีมลุยในทุกรายการกับสโมสรอย่างต่อเนื่อง

ฟาเบียน ชาร์ ปราการหลังตัวกลางอายุ 30 ปี ที่ฤดูกาลนี้ เขาเป็นกองหลังที่ทีมขาดไม่ได้ไปแล้ว โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง และ เป็นตัวเลือกของทีมชาติอยู่เสมอ

น่าเสียดายที่เขาเป็นกองหลังตัวสำรองของสวิตเซอร์แลนด์ แต่ก็น่าจะได้รับโอกาสในการลงสนามอยู่บ้าง หวังว่าเขาจะได้โชว์ฟอร์มในรายการบอลโลกครั้งนี้ เพราะอาจเป็นทัวร์นาเม้นต์ในการลงสนามครั้งสุดท้ายของเขากับฟุตบอลโลก

ซึ่งตอนนี้ ฟาเบียน ชาร์ เตรียมกลับมารับใช้สโมสร เมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นๆ จากสโมสรอื่นๆ ที่อยู่ในตำแหน่งท็อปโฟร์ พวกเขามีนักเตะไปรับใช้ชาติประมาณ 10 คนต่อทีม แถมบางรายมีอาการบาดเจ็บกันไปแล้วอีกด้วย

ตรงนี้ยิ่งทำให้ “สาลิกาดง” ได้เปรียบยิ่งขึ้นไปใหญ่ แถมพวกเขามีงบเสริมทัพเดือนมกราคม ประมาณ 85 ล้านปอนด์ ซึ่งยังไม่รวมแข้งที่พวกเขาต้องการจะขาย อีกต่างหาก ดังนั้นกล้าฝันได้เลยครับ ต่อให้ไปไม่ถึงดวงดาว เพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงจะไปต่อไหวแน่นอน ขุมผู้เล่นเฟี๊ยวกว่า

แต่อย่างน้อยการันตี 1 ใน 4 มี่แน่นอนครับ รอดูได้เลย